แปลและเรียบเรียงบทความ ‘What is the best food for this insects?: Fruits, Jellies and High-Protein Jellies?‘ บนเว็บไซต์ STAG BEETLES | How to Care, Breed And Make Sepcimen เขียนโดย Suzukake

For English and Japanese Versions. You can read from STAG BEETLES | How to Care, Breed And Make Sepcimen by Suzukake

อาหารที่ดีที่สุดสำหรับแมลงเหล่านี้คืออะไร: ผลไม้ เยลลี่ และไฮโปรตีนเยลลี่?

ในธรรมชาติ ด้วงกว่างและด้วงคีมมักกิน “ยางไม้” เป็นอาหารหลัก แต่เมื่อนำมาเลี้ยงในบ้าน มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหายางไม้มาป้อนให้ทุกวัน ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงมองหาอาหารทดแทน เช่น ผลไม้ หรือ เยลลี่เลี้ยงด้วง ซึ่งหาได้ง่ายและสะดวกกว่า

ในบทความนี้ คุณ Suzukake จะพาเราไปรู้จักอาหารต่าง ๆ สำหรับด้วง ทั้งแบบดั้งเดิมและแบบทันสมัย รวมถึงเยลลี่ที่มีโปรตีนสูง ซึ่งอาจช่วยให้การเพาะพันธุ์ได้ผลดียิ่งขึ้น

หัวข้อ

1. ผลไม้ และยางไม้โฮมเมด
2. สินค้ายางไม้สังเคราะห์ และเยลลี่ สำหรับเหล่าแมลง
3. สินค้าไฮโปรตีนเยลลี่ สำหรับเหล่าแมลง

1. ผลไม้ และยางไม้โฮมเมด

ในช่วงปี 1970 หนังสือเลี้ยงแมลงหลายเล่มแนะนำให้ใช้ แอปเปิ้ล เป็นอาหารหลักสำหรับด้วง และแม้เวลาจะผ่านมานาน แต่แอปเปิ้ลกับกล้วยก็ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมอยู่

นอกจากผลไม้ ยังมีสูตรโฮมเมดอื่น ๆ เช่น

1. น้ำตาลหรือน้ำผึ้งผสมน้ำ
2. เครื่องดื่มแลคติกหมัก

คุณ Suzukake ใช้ฐานข้อมูลจากกระทรวงศึกษาธิการของญี่ปุ่น (MEXT) เพื่อเปรียบเทียบคุณค่าทางโภชนาการของผลไม้แต่ละชนิด และพบว่า

1. กล้วย มีโปรตีนสูงและราคาถูก เหมาะสำหรับด้วงเพศเมียที่ต้องการพลังงานในการวางไข่
2. เมล่อน ก็มีโปรตีนมาก แต่ราคาแพง
3. กีวี่ โปรตีนสูงพอ ๆ กับกล้วย แม้จะไม่ค่อยมีใครใช้ให้ด้วงกิน

2. ยางไม้สังเคราะห์และเยลลี่สำหรับแมลง

ช่วงก่อนปี 1990 เริ่มมีการขาย ยางไม้สังเคราะห์ แบบบีบจากถุงพลาสติก ช่วยให้การเลี้ยงด้วงง่ายขึ้นเพราะไม่ต้องปอกผลไม้ และเก็บได้นาน ทำให้ผู้ใช้สามารถบีบยางไม้สังเคราะห์ออกมาราดบนแผ่นไม้ได้

แม้สินค้านี้จะไม่ค่อยมีขายแล้วในปัจจุบัน แต่ในหนังสือช่วงปี 1980 ก็มีการกล่าวถึงผลิตภัณฑ์เหล่านี้อยู่บ่อย ๆ

ยางไม้สังเคราะห์เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดกว่าการให้ผลไม้ เพราะมันมีอายุการใช้งานค่อนข้างนาน และไม่ต้องใช้มีดปอกเหมือนผลไม้ แม้สินค้านี้จะถูกยกเลิกจำหน่ายและหาซื้อไม่ได้แล้วก็ตาม แต่ก็ยังปรากฎหลักฐานจากหนังสือแคทตาล็อกสินค้าที่ถูกตีพิมพ์ ณ ช่วงปี 1985 ถึง 1989 ถึงเราจะไม่รู้ถึงความนิยมของสินค้าชนิดนี้ แต่อย่างน้อยมันก็เคยขายอยู่ในตลาดในช่วงหลังปี 1980

ต่อมาจึงเกิดเป็น เยลลี่ด้วงแบบถ้วย ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นอาหารหลักที่นิยมมากในญี่ปุ่น

เยลลี่ในถ้วยกำลังเป็นนิยมเช่นกันในตอนนี้

3. สินค้าไฮโปรตีนเยลลี่ สำหรับเหล่าแมลง

รุ่นแรกของยางไม้สังเคราะห์ และเยลลี่นั้นคุณค่าทางโภชนาการยังไม่สมบูรณ์มากนัก แม้ว่า สินค้าเหล่านี้เป็นมั่นใจในหมู่ผู้เลี้ยงแล้วก็ตาม

จากหนังสือ 『クワガタムシ飼育のスーパーテクニック』(1996) ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า “เทคนิคขั้นเทพในการเลี้ยงด้วงคีม” ผู้เขียนบ่งชี้ถึงปัญหาของสินค้ายางไม้สังเคราะห์ และเยลลี่ เมื่อแมลง (ในกรณีของผู้เขียน คือ ด้วงคีมโฮเป Dorcus hopei binodulosus) กำลังสืบพันธุ์และอยู่ในช่วงระยะวางไข่

ประโยคดังกล่าวดังต่อไปนี้ คัดลอกจากหนังสือ

“พวกมันมีไข่ออกมาน้อย ในกรณีที่แย่ แต่เจอบ่อยครั้งคือ ตัวเมียกินตัวผู้

“ผมพบว่าอาหารเหล่านี้มันมีส่วนประกอบของน้ำตาลมากเกินไป แต่มีโปรตีนน้อย ซึ่งมันจำเป็นสำหรับด้วงคีม โดยวิเคราะห์สารอาหารจาก เครื่องวิเคราะห์อินฟราเรดและเครื่องวัดอุณหภูมิ”

“เมื่อให้เยลลี่ที่มีโปรตีนสูงกับบรรดาด้วงคีม พวกมันก็สู้กันน้อยลง”

“ยางไม้ธรรมชาติจากต้นโอ๊ก มีส่วนประกอบของโปรตีนอย่างมากที่สุด 3.0%”

ในปีเดียวกัน ไฮโปรตีนเยลลี่ปรากฎบนโฆษณาใน 『月刊むし』(วารสารกีฏวิทยารายเดือน)

ในวารสารกล่าวไว้ว่า ไฮโปรตีนเยลลี่จะทำให้ออกไข่ได้มากขึ้น และลดความเสี่ยงการติดเกาะตัวผู้ของตัวเมีย

สรุปและประโยชน์จากบทความนี้

อาหารที่เหมาะสมสำหรับด้วงของเรา มีได้แก่ ผลไม้ และเยลลี่ (ทั้งรูปแบบธรรมดาและโปรตีนสูง) ซึ่งมีประโยชน์ก็คือมีสารอาหารที่แมลงต้องการ และเมื่อใช้อาหารที่ให้โปรตีนสูงจะเพิ่มโอกาสได้จำนวนไข่มากขึ้น และลดการต่อสู้กันของด้วงเพศผู้และเพศเมียในขณะเพาะพันธุ์ จึงเป็นบทความที่อยากนำมาแปลสู่คนคลั่งไคล้แมลงอย่างเรา ๆ ได้อ่านกัน